ตะคริวคืออะไร?

ตะคริวคืออาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อแบบเฉียบพลันและไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณ น่องและเท้า ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดตะคริวบ่อยที่สุด อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย แต่พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ นักกีฬา หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประเภท

แม้ว่าตะคริวจะไม่ใช่ภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สามารถสร้างความไม่สะดวกสบายและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สาเหตุ วิธีป้องกัน และแนวทางแก้ไข จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดตะคริวได้

สาเหตุของตะคริวเกิดจากอะไร?

ตะคริวเกิดจากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อและประสาท ต่อไปนี้เป็นสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย:

1. การขาดน้ำและเกลือแร่

ร่างกายต้องการน้ำและเกลือแร่ในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือสูญเสียเหงื่อมากจากการออกกำลังกายหรืออากาศร้อน อาจทำให้โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียมในร่างกายลดลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดเกร็งได้ง่ายขึ้น

2. การใช้งานกล้ามเนื้อหนักเกินไป

การออกกำลังกายที่หนักเกินไป หรือการใช้กล้ามเนื้อเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อล้าและเกิดตะคริว โดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่ทำงานที่ต้องยืนนาน หรือผู้ที่เดินมากเกินไป

3. อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน

อากาศเย็นสามารถทำให้กล้ามเนื้อหดตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดตะคริว โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิลดลง

4. ความผิดปกติของระบบประสาท

เส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้ออาจทำงานผิดปกติ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคปลายประสาทอักเสบ หรือปัญหาทางสมองบางอย่าง ที่ทำให้การสื่อสารระหว่างประสาทและกล้ามเนื้อทำงานไม่เป็นปกติ

5. โรคประจำตัวบางประเภท

  • เบาหวาน: น้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลต่อเส้นประสาทและระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เกิดตะคริวได้ง่ายขึ้น

  • โรคไต: ผู้ป่วยไตอาจสูญเสียสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย ส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ

  • ปัญหาต่อมไทรอยด์: ไทรอยด์ฮอร์โมนที่ผิดปกติสามารถมีผลกระทบต่อระบบเผาผลาญและกล้ามเนื้อ

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดตะคริว?

  • ผู้สูงอายุ: เนื่องจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเริ่มเสื่อมสภาพ

  • นักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายหนัก: ใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ ทำให้เกิดอาการล้า

  • หญิงตั้งครรภ์: มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนโลหิต

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว: เช่น เบาหวาน โรคไต หรือปัญหาทางประสาท

  • ผู้ที่ขาดสารอาหารและน้ำดื่มไม่เพียงพอ

ตะคริวมักเกิดขึ้นเมื่อไร?

1. ขณะออกกำลังกาย

การออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดตะคริวได้ โดยเฉพาะถ้าไม่มีการวอร์มอัพหรือยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังออกกำลังกาย

2. ขณะนอนหลับตอนกลางคืน

ตะคริวที่น่องและเท้ามักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งอาจเกิดจากอุณหภูมิที่ลดลง หรือการไหลเวียนเลือดที่ลดลงในขณะที่นอนพัก

วิธีตรวจสอบตัวเองเบื้องต้น

  1. สังเกตการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และดูว่าเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน

  2. ลองขยับบริเวณที่เป็นตะคริว แล้วสังเกตว่าคลายตัวเองหรือไม่

  3. บันทึกพฤติกรรมการออกกำลังกายและการรับประทานอาหาร เพื่อตรวจหาปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออาการ

เมื่อไรควรพบแพทย์?

  • ตะคริวเกิดขึ้นบ่อยเกินไป หรือไม่สามารถคลายตัวเองได้

  • มีอาการปวดรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน

  • กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือมีอาการบวมแดงร่วมด้วย

5 วิธีแก้ไขตะคริวกินน่องและตะคริวที่เท้าด้วยตัวเองที่บ้าน

1. การยืดกล้ามเนื้อและการนวด

  • ใช้มือกดเบาๆ บริเวณที่เป็นตะคริว

  • เหยียดกล้ามเนื้ออย่างช้าๆ และค้างไว้ขั้นต่ำ 30 วินาที

2. การประคบร้อนหรือเย็น

  • ใช้ผ้าร้อนช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย

  • ใช้น้ำแข็งช่วยลดอาการอักเสบ

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

  • ดื่มน้ำเกลือแร่เสริมถ้าสูญเสียเหงื่อมาก

4. รับประทานอาหารที่มีเกลือแร่สูง

  • โพแทสเซียม: กล้วย อะโวคาโด

  • แมกนีเซียม: อัลมอนด์ ผักใบเขียว

  • แคลเซียม: นม โยเกิร์ต

5. ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย

  • หลีกเลี่ยงอากาศเย็นจัดโดยสวมถุงเท้า

  • ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ ก่อนนอนเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

2 ท่ายืดสำหรับ การแก้อาการ ตะคริวกินน่องและตะคริวที่เท้า ด้วยตัวเอง

สามารถดูโปรแกรมเต็มๆในการแก้ไขรองช้ำด้วยตนเองได้ใน App ERTIGO โดยการยืดกล้ามเนื้อนั้นต้องอย่างต่อเนื่องให้เป็นนิสัยจึงจะได้ผลดีที่สุด App ERTIGO นี้จะช่วยให้คุณสามารถรวมการยืดกล้ามเนื้อเช้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคุณได้

1. นั่งยืดน่องบรรเทาตะคริวกินน่องและตะคริวที่เท้าด้วยตนเอง

  • นั่งเหยียดขาซ้าย งอขาขวา คล้องผ้าขนหนูที่เท้าซ้าย
  • ดึงผ้าเข้าหาตัว จนกระทั่งรู้สึกตึงขาด้านหลัง ยืดค้างไว้ผ่อนคลายคอและบ่า
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที
  • ค่อยๆ คลายกลับมาในท่าเตรียม
  • นั่งเหยียดขาขวา งอขาซ้าย คล้องผ้าขนหนูที่เท้าขวา
  • ดึงผ้าเข้าหาตัว จนกระทั่งรู้สึกตึงขาด้านหลัง ยืดค้างไว้ผ่อนคลายคอและบ่า
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที
  • ค่อยๆ คลายกลับมาในท่าเตรียม

2. ยืนยืดน่องบรรเทาตะคริวกินน่องและตะคริวที่เท้า

  • ใช้มือยันกำแพง ถอยขาขวาเหยียดตรงไปด้านหลังและ
  • ย่อเข่าซ้ายลงจนน่องขวาตึง
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที ระวังไม่ให้เข่าด้านซ้ายล้ำปลายเท้า
  • ค่อยๆคลายกลับมาในท่าเตรียม
  • ใช้มือยันกำแพง ถอยขาซ้ายเหยียดตรงไปด้านหลังและ ย่อเข่าขวาลงจนน่องซ้ายตึง
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที ระวังไม่ให้เข่าด้านขวาล้ำปลายเท้า
  • ค่อยๆคลายกลับมาในท่าเตรียม

Program 21 วันป้องกันและบรรเทา ตะคริวกินน่องและตะคริวที่เท้า

โปรแกรมออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการยืดกล้ามเนื้อเพื่อสุขภาพเท้าและขาที่ดีอย่างยั่งยืน

ยืดกล้ามเนื้อกับ ERTIGO App ที่รับรางวัลระดับโลก

ทำไมวิดีโอการยืดกล้ามเนื้อถึงไม่เพียงพอ?

การดูและทำตามเพียงครั้งเดียวจะไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงความยืดหยุ่นของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ เราต้องการวิธีการที่ผสานเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น เช่น การยืดกล้ามเนื้อที่เหมาะสำหรับการทำงานที่โต๊ะ การออกกำลังกายที่สามารถทำได้บนเครื่องบิน หรือการยืดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลายก่อนนอน

ทำไม ERTIGO ถึงเป็นคำตอบ

ERTIGO ช่วยให้คุณใช้ไลฟ์สไตล์ของคุณเพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่นและความคล่องตัวของร่างกาย แอนิเมชันของเรามาพร้อมกับคำแนะนำเสียงที่ชัดเจนและได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของคุณในหลากหลายด้าน

บทสรุป

ตะคริวกินน่องและตะคริวที่เท้าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย แต่สามารถป้องกันได้โดยการดูแลสุขภาพกล้ามเนื้อ แอป ERTIGO เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการยืดกล้ามเนื้ออย่างถูกต้องและป้องกันตะคริวในระยะยาว