คนทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณใดกันบ้าง ใช่คอบ่าไหล่ หรือไม่
พนักงานยุคดิจิทัล ทำงานหลักอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หนีไม่พ้นกันในเรื่องของอาการปวดเมื่อยร่างกาย และส่วนใหญ่พบที่บริเวณช่วง คอบ่าไหล่ วิธีที่จะแก้ไขได้อย่างยั่งยืนคือการทำกายบริหารด้วยตัวเองให้เป็นลักษณะนิสัย
วิธีแก้ปวดคอ บ่า ไหล่ ในเบื้องต้น
- การจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อสรีระร่างกาย ให้คุณสังเกตพฤติกรรมตนเองบ่อยๆและสังเกตสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อสรีระของเราหรือไม่ เช่น ทำงานที่โต๊ะทำงาน ให้สังเกตว่าระดับความสูงระหว่างโต๊ะและเก้าอี้นั่งทำงาน เหมาะสมหรือไม่ เก้าอี้ทำงานมีการออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระได้ไหม เป็นต้น หากไม่เหมาะสมต้องรีบแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงของออฟฟิศซินโดรม หรือโรคภัยต่างๆที่จะตามมา
- การทำท่าบริหารกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อให้มากขึ้น
- นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ตึงเครียด ได้ผ่อนคลายลง
- บริหารร่างกาย ในท่าเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
- การจัดท่านั่งทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันอาการปวดหลัง ปวดคอ และปวดไหล่ได้ ท่านั่งที่ถูกต้องนั้นเริ่มจาก
1) นั่งตัวตรงบนเก้าอี้ของคุณ เปิดไหล่และหน้าอกของคุณไว้
2) ใช้ที่พักเท้า (ถ้ามี) หากเท้าของคุณสามารถวางติดพื้นได้ ที่พักเท้าอาจไม่จำเป็นสำหรับคุณ
3) ปรับระดับความสูงของเก้าอี้ให้เท้าราบกับพื้นโดยให้เข่าทำมุม 90 องศา
4) พักทุกๆ 20 นาทีหรือมากกว่านั้นเพื่อยืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบท
5 ท่ากายบริหาร คอบ่าไหล่ ทำได้ง่ายที่โต๊ะทำงาน
แนะนำ 5 ท่ากายบริหารที่ทำได้ง่าย ๆ นั่งทำ-ยืนทำได้ที่โต๊ะทำงาน สะดวกทั้งนั่งทำยืนทำ เลือกได้ว่าจะทำท่าไหนก่อน-หลัง ทำทุกวันอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่เหมาะสม เริ่มจากค่อย ๆ ปรับระยะเวลาค้างท่าโดยค่อย ๆ เพิ่ม เริ่มจาก 10 วินาที จนถึง 15 วินาที และเพิ่มจำนวนรอบต่อวัน เริ่มจาก 3 รอบจนถึง 5 รอบ โดยยึดหลัก “ค่อย ๆ ทำ ทำเท่าที่ไหว อย่างฝืนร่างกายจนเกิดเสียงกร๊อบแกร๊บ” หากคุณสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัยจะสามารถป้องกันปัญหาระยะยาวอย่างออฟฟิศซินโดรมได้
ท่าที่ 1:
ไขว้มือจับศอกแล้วดึงมาฝั่งตรงข้าม
ระยะเวลาที่แนะนำ:
ทำค้างไว้ 10-15 วินาที ทำ 3-5 ครั้ง วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือเมื่อมีอาการปวด
บริเวณกล้ามเนื้อที่ได้ยืดเหยียด ได้แก่
- ไหล่ด้านบน
- สะโพกส่วนบน
- หลังส่วนบน
- ไหล่ด้านหลัง
- ร่างกายส่วนบนด้านข้าง
ท่าที่ 2:
ประสานมือแล้วยืดไปด้านหน้า
ระยะเวลาที่แนะนำ:
ทำค้างไว้ 10-15 วินาที ทำ 3-5 ครั้ง วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือเมื่อมีอาการปวด
บริเวณกล้ามเนื้อที่ได้ยืดเหยียด ได้แก่
- ไหล่ด้านบน
- มือและนิ้ว
- ไตรเซ็ปส์
- ข้อมือ
ท่าที่ 3:
ประสานมือแล้วยืดไปด้านหลัง
ระยะเวลาที่แนะนำ:
ทำค้างไว้ 10-15 วินาที ทำ 3-5 ครั้ง วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือเมื่อมีอาการปวด
บริเวณกล้ามเนื้อที่ได้ยืดเหยียด ได้แก่
- ไหล่ด้านบน
- ไหล่ด้านหน้า
- หน้าอก
- ไบเซ็ปส์
- หลังส่วนบน
- ร่างกายส่วนบนด้านข้าง
ท่าที่ 4:
เหยียดแขนไขว้แล้วงอศอกเข้าหาตัว
ระยะเวลาที่แนะนำ:
ทำค้างไว้ 10-15 วินาที ทำ 3-5 ครั้ง วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือเมื่อมีอาการปวด
บริเวณกล้ามเนื้อที่ได้ยืดเหยียด ได้แก่
- ไหล่ด้านบน
- หลังส่วนบน
- ไหล่ด้านหลัง
- ข้อศอก
ท่าที่ 5:
เอียงศีรษะมือดึงมาฝั่งตรงข้าม
ระยะเวลาที่แนะนำ:
ทำค้างไว้ 10-15 วินาที ทำ 3-5 ครั้ง วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หรือเมื่อมีอาการปวด
บริเวณกล้ามเนื้อที่ได้ยืดเหยียด ได้แก่
- คอด้านข้าง
- ไหล่ด้านบน
- หลังส่วนบน
- ไหล่ด้านหลัง
มนุษย์คนทำงานอย่างเราทุ่มเทเวลาเกินกว่าครึ่งชีวิตให้กับการทำงาน โดยท่าที่เราใช้บ่อยเป็นอันดับต้นๆ ของชีวิตคือท่านั่ง ถ้าเรานั่งผิดท่า นั่งไม่ดี ก็อาจก่อโรคสร้างความรำคาญใจได้ โดยเฉพาะโรคอย่าง Office Syndrome มาทำท่าบริหารเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะออฟฟิศซินโดรมไปกับเรา
จากท่ากายบริหารข้างต้น สามารถทำได้ที่โต๊ะทำงาน ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก เพียงคุณตั้งใจจะทำอย่างจริงจัง อาการปวดคอบ่าไหล่ของคุณก็จะดีขึ้นด้วย 5 ท่านี้ ลองทำแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง สามารถส่งคำถามมาหาเราได้
แหล่งอ้างอิง
- Bob Anderson Technique
- Play Store: ERTIGO Application
- App Store: ERTIGO Application