เอ็นร้อยหวายอักเสบคืออะไร?

เอ็นร้อยหวาย (Achilles Tendon) เป็นเอ็นขนาดใหญ่ที่เชื่อมระหว่างกล้ามเนื้อน่องกับกระดูกส้นเท้า ทำหน้าที่สำคัญในการเดิน วิ่ง และกระโดด แต่เมื่อเกิดการอักเสบขึ้น จะทำให้รู้สึกเจ็บ บวม และตึงบริเวณเอ็นร้อยหวาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

สาเหตุของเอ็นร้อยหวายอักเสบ

เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles Tendonitis) มักเกิดจาก:

  1. การใช้งานมากเกินไป (Overuse) – การออกกำลังกายที่หนักเกินไปหรือเปลี่ยนกิจกรรมกะทันหัน

  2. รองเท้าไม่เหมาะสม – สวมรองเท้าที่ไม่รองรับแรงกระแทก หรือใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน

  3. กล้ามเนื้อน่องตึง – ขาดการยืดกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดแรงดึงที่เอ็นมากเกินไป

  4. อายุและความเสื่อมของร่างกาย – เอ็นร้อยหวายเสื่อมลงตามวัย ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บง่ายขึ้น

  5. อุบัติเหตุหรือแรงกระแทก – การบาดเจ็บโดยตรงจากการกระโดดหรือเปลี่ยนทิศทางเร็วเกินไป

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อเอ็นร้อยหวายอักเสบ?

บางกลุ่มคนมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะเอ็นร้อยหวายอักเสบมากกว่าคนทั่วไป ได้แก่:

  • นักกีฬาและนักวิ่ง – โดยเฉพาะผู้ที่ฝึกหนัก หรือเปลี่ยนระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกายกะทันหัน

  • ผู้ที่สวมรองเท้าที่ไม่เหมาะสม – เช่น รองเท้าที่ขาดการรองรับแรงกระแทก หรือใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน

  • ผู้สูงอายุ – เอ็นร้อยหวายมีแนวโน้มเสื่อมลงตามวัย ทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบและฉีกขาด

  • ผู้ที่มีกล้ามเนื้อน่องแข็งหรือตึงมากเกินไป – ส่งผลให้เอ็นร้อยหวายรับแรงดึงมากขึ้น

  • ผู้ที่มีปัญหาด้านโครงสร้างเท้า – เช่น เท้าแบน (Flat Feet) หรือมีรูปเท้าที่ผิดปกติ

  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน – เพิ่มแรงกดที่เอ็นร้อยหวาย ส่งผลให้เกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น

เอ็นร้อยหวายอักเสบ กินยาอะไร?

หากอาการอักเสบไม่รุนแรงมาก การรักษาด้วยยาเป็นทางเลือกที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบได้ โดยยาที่แนะนำ ได้แก่:

  1. ยาแก้ปวดและลดการอักเสบกลุ่ม NSAIDs (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs)

    • ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เช่น Brufen, Advil

    • นาโพรเซน (Naproxen) เช่น Aleve

    • ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) เช่น Voltaren

    🛑 ผลข้างเคียง: อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ระคายเคืองทางเดินอาหาร และเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาไตหากใช้เป็นเวลานาน

  2. ยาทาแก้อักเสบ (Topical NSAIDs)

    • เช่น Voltaren Gel, Diclofenac Gel ใช้ทาเฉพาะที่บริเวณเอ็นร้อยหวายที่ปวด

    🛑 ผลข้างเคียง: อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ผื่นแดง หรือคันบริเวณที่ทา

  3. ยาคลายกล้ามเนื้อ (Muscle Relaxants)

    • เช่น Orphenadrine (Norflex) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อร่วมด้วย

    🛑 ผลข้างเคียง: อาจทำให้เวียนศีรษะ ง่วงนอน หรือคลื่นไส้

  4. ยากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroids)

    • ใช้ในกรณีที่มีการอักเสบรุนแรงและดื้อต่อการรักษาแบบทั่วไป ต้องได้รับการฉีดยาจากแพทย์เท่านั้น

    🛑 ผลข้างเคียง: อาจทำให้เนื้อเยื่อเอ็นร้อยหวายอ่อนแอลง และเสี่ยงต่อการฉีกขาดหากใช้บ่อยเกินไป

การตรวจประเมินสำหรับเอ็นร้อยหวายอักเสบ

1. การซักประวัติอาการ

แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับ:

  • ลักษณะอาการปวด (เช่น ปวดเมื่อขยับ หรือปวดแม้อยู่เฉยๆ)

  • ประวัติการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ

  • ประวัติการสวมรองเท้า และปัญหาเกี่ยวกับเท้า

2. การตรวจร่างกาย

แพทย์จะตรวจ:

  • บริเวณที่เจ็บ โดยการคลำเอ็นร้อยหวายเพื่อตรวจหาการบวม หรือความผิดปกติ

  • ทดสอบแรงตึงของกล้ามเนื้อน่อง และความยืดหยุ่นของเอ็นร้อยหวาย

  • ทดสอบ Thompson Test โดยให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ แล้วบีบกล้ามเนื้อน่อง ถ้าเท้าไม่ขยับขึ้น อาจบ่งชี้ว่าเอ็นร้อยหวายขาด

3. การตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ

หากแพทย์สงสัยว่ามีการอักเสบหรือฉีกขาดของเอ็นร้อยหวาย อาจแนะนำ:

  • อัลตราซาวด์ (Ultrasound) – เพื่อตรวจดูความหนาของเอ็นและการอักเสบ

  • MRI (Magnetic Resonance Imaging) – ตรวจรายละเอียดของเอ็นร้อยหวายและกล้ามเนื้อรอบข้าง

  • X-ray – อาจใช้ในบางกรณีเพื่อแยกโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก เช่น หินปูนสะสมที่เอ็นร้อยหวาย

การดูแลตัวเองสำหรับเอ็นร้อยหวายอักเสบ

หากคุณมีอาการอักเสบของเอ็นร้อยหวาย การดูแลตัวเองที่เหมาะสมจะช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นและป้องกันการเกิดซ้ำได้:

  1. พักการใช้งาน – หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เอ็นร้อยหวายรับแรงกดดันมากเกินไป เช่น การวิ่งหรือกระโดด

  2. ประคบเย็น – ใช้ถุงน้ำแข็งหรือแผ่นเจลเย็นประคบบริเวณที่ปวดเป็นเวลา 15-20 นาที ทุก 3-4 ชั่วโมง

  3. ยืดกล้ามเนื้อน่อง – ฝึกท่ายืดเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของเอ็นและลดแรงดึงที่อาจทำให้เกิดการอักเสบ

  4. ใช้รองเท้าที่เหมาะสม – เลือกรองเท้าที่มีการรองรับแรงกระแทกดี หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าที่แบนเกินไป

  5. ยกขาสูง – หากมีอาการบวม ควรยกเท้าสูงกว่าระดับหัวใจเพื่อลดอาการบวม

  6. หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าบนพื้นแข็ง – ใช้รองเท้าที่ช่วยลดแรงกดบริเวณเอ็นร้อยหวาย

  7. ฝึกบริหารกล้ามเนื้อรอบๆ เอ็นร้อยหวาย – เสริมสร้างความแข็งแรงของน่องเพื่อลดโอกาสเกิดอาการอักเสบซ้ำ

2 ท่ายืดสำหรับ การแก้อาการ เอ็นร้อยหวายอักเสบ ด้วยตัวเอง

สามารถดูโปรแกรมเต็มๆในการแก้ไขรองช้ำด้วยตนเองได้ใน App ERTIGO โดยการยืดกล้ามเนื้อนั้นต้องอย่างต่อเนื่องให้เป็นนิสัยจึงจะได้ผลดีที่สุด App ERTIGO นี้จะช่วยให้คุณสามารถรวมการยืดกล้ามเนื้อเช้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคุณได้

1. นั่งยืดน่องบรรเทารองช้ำด้วยตนเอง

  • นั่งเหยียดขาซ้าย งอขาขวา คล้องผ้าขนหนูที่เท้าซ้าย
  • ดึงผ้าเข้าหาตัว จนกระทั่งรู้สึกตึงขาด้านหลัง ยืดค้างไว้ผ่อนคลายคอและบ่า
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที
  • ค่อยๆ คลายกลับมาในท่าเตรียม
  • นั่งเหยียดขาขวา งอขาซ้าย คล้องผ้าขนหนูที่เท้าขวา
  • ดึงผ้าเข้าหาตัว จนกระทั่งรู้สึกตึงขาด้านหลัง ยืดค้างไว้ผ่อนคลายคอและบ่า
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที
  • ค่อยๆ คลายกลับมาในท่าเตรียม

2. ยืนยืดน่องบรรเทารองช้ำ

  • ใช้มือยันกำแพง ถอยขาขวาเหยียดตรงไปด้านหลังและ
  • ย่อเข่าซ้ายลงจนน่องขวาตึง
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที ระวังไม่ให้เข่าด้านซ้ายล้ำปลายเท้า
  • ค่อยๆคลายกลับมาในท่าเตรียม
  • ใช้มือยันกำแพง ถอยขาซ้ายเหยียดตรงไปด้านหลังและ ย่อเข่าขวาลงจนน่องซ้ายตึง
  • ยืดค้างไว้ 10 – 15 วินาที ระวังไม่ให้เข่าด้านขวาล้ำปลายเท้า
  • ค่อยๆคลายกลับมาในท่าเตรียม

Program 21 วันป้องกันและบรรเทา เอ็นร้อยหวายอักเสบ

โปรแกรมออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการยืดกล้ามเนื้อเพื่อสุขภาพเท้าและขาที่ดีอย่างยั่งยืน

ยืดกล้ามเนื้อกับ ERTIGO App ที่รับรางวัลระดับโลก

ทำไมวิดีโอการยืดกล้ามเนื้อถึงไม่เพียงพอ?

การดูและทำตามเพียงครั้งเดียวจะไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงความยืดหยุ่นของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ เราต้องการวิธีการที่ผสานเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น เช่น การยืดกล้ามเนื้อที่เหมาะสำหรับการทำงานที่โต๊ะ การออกกำลังกายที่สามารถทำได้บนเครื่องบิน หรือการยืดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลายก่อนนอน

ทำไม ERTIGO ถึงเป็นคำตอบ

ERTIGO ช่วยให้คุณใช้ไลฟ์สไตล์ของคุณเพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่นและความคล่องตัวของร่างกาย แอนิเมชันของเรามาพร้อมกับคำแนะนำเสียงที่ชัดเจนและได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของคุณในหลากหลายด้าน

บทสรุป

เอ็นร้อยหวายอักเสบเป็นภาวะที่สามารถป้องกันและจัดการได้ หากเราให้ความสำคัญกับการดูแลเท้าอย่างถูกวิธี การเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลเบื้องต้นจะช่วยให้คุณสามารถรักษาสุขภาพขาและดำเนินกิจกรรมประจำวันได้อย่างไม่มีข้อจำกัด การใส่ใจต่อการป้องกันและรักษาตั้งแต่แรกเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้โรครองช้ำรุนแรงและเกิดผลกระทบในระยะยาว